วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557

แปลเพลง One Direction - Through The Dark




You tell me that you're sad you lost your way
You tell me that your tears are here to stay
But I know you were only hiding
And I just wanna see ya
You tell me that you're hurt, and you're in pain
And I can see your head is held in shame
But I just wanna see you smile again
See you smile again
เธอบอกฉันว่าเธอเศร้า เธอหลงทาง
เธอบอกฉันว่าน้ำตาของเธอมันไม่ยอมจากไปไหน
แต่ฉันรู้นะว่าเธอเพียงปิดบังบางอย่างเอาไว้
และฉันก็แค่อยากจะพบเธอ
เธอบอกฉันว่าเธอเจ็บ เธอทรมาณเหลือเกิน
และฉันก็เห็นนะว่าเธอกำลังรู้สึกละอาย
แต่ฉันอยากจะเห็นรอยยิ้มเธออีกครั้งนะ
อยากเห็นรอยยิ้มเธออีกครั้ง
But don't burn out
Even if you scream and shout
It will come back to you
And I'll be here for you

แต่อย่าถูกแผดเผาไปนะ
ถึงแม้เธอจะกรีดร้องตะโกนออกมา
มันจะกลับมาหาเธอแน่ๆ
และฉันก็จะอยู่เคียงข้างเธอเอง
Oh I will carry you over fire and water for your love
And I will hold you closer
Hope your heart is strong enough
When the night is coming down on you
We will find a way
Through the dark
ฉันจะอุ้มเธอข้ามน้ำข้ามไฟ เพื่อความรักของเธอ
และจะกอดเธอให้แน่นขึ้นอีก
หวังว่าหัวใจของเธอจะเข้มแข็งพอนะ
ในยามที่ค่ำคืนมันใกล้เข้ามาหาเธอ
เราจะหาทาง
ออกจากความมืดมิดนี้เอง
I wish that I could take you to the star
I'd never let you fall and break your heart
And if you wanna cry or fall apart
I'll be there to hold ya
ฉันหวังว่าฉันจะพาเธอไปยังดวงดาวได้นะ
ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้เธอล้ม และทำลายหัวใจเธอเด็ดขาด
และหากเธออยากจะร้องไห้ หรือในยามที่เธอใจสลาย
ฉันจะคอยกอดเธอเอง
You tell me that you heard it's all in vain
But I can see your heart can love again
And I remember you laughing
So let's just laugh again
เธอบอกว่าหัวใจเธอมันทรมาณเหลือเกิน
แต่ฉันดูออกนะว่าหัวใจเธอยังมีความรักได้อีกครั้ง
และฉันยังจำเธอหัวเราะได้
เพราะงั้นเรามาหัวเราะกันอีกทีนะ
But don't burn out
Even if you scream and shout
It will come back to you, back to you
แต่อย่าถูกแผดเผาไปนะ
ถึงแม้เธอจะกรีดร้องตะโกนออกมา
มันจะกลับมาหาเธอแน่ๆ
Oh I will carry you over fire and water for your love
And I will hold you closer
Hope your heart is strong enough
When the night is coming down on you
We will find a way
Through the dark
ฉันจะอุ้มเธอข้ามน้ำข้ามไฟ เพื่อความรักของเธอ
และจะกอดเธอให้แน่นขึ้นอีก
หวังว่าหัวใจของเธอจะเข้มแข็งพอนะ
ในยามที่ค่ำคืนมันใกล้เข้ามาหาเธอ
เราจะหาทาง
ออกจากความมืดมิดนี้เอง
And you don't need
You don't need to worry
And you will see it's easy to love
I know you wanna be loved
และเธอก็ไม่จำเป็น
ต้องห่วงเลย
และเธอก็จะเห็นเองว่ามันง่ายแค่ไหนที่จะรักใคร
ฉันรู้ว่าเธออยากได้รับความรักนะ
Oh I will carry you over fire and water for your love
Oh I will carry you over fire and water for your love
And I will hold you closer
Hope your heart is strong enough
When the night is coming down on you
We will find a way
Through the dark
ฉันจะอุ้มเธอข้ามน้ำข้ามไฟ เพื่อความรักของเธอ
และจะกอดเธอให้แน่นขึ้นอีก
หวังว่าหัวใจของเธอจะเข้มแข็งพอนะ
ในยามที่ค่ำคืนมันใกล้เข้ามาหาเธอ
เราจะหาทาง
ออกจากความมืดมิดนี้เอง
Oh I will carry you over fire and water for your love
(Zayn: Oh I would, oh I would)
And I will hold you closer
Hope your heart is strong enough
When the night is coming down
We will find a way
Through the dark
ฉันจะอุ้มเธอข้ามน้ำข้ามไฟ เพื่อความรักของเธอ
และจะกอดเธอให้แน่นขึ้นอีก
หวังว่าหัวใจของเธอจะเข้มแข็งพอนะ
ในยามที่ค่ำคืนมันใกล้เข้ามาหาเธอ
เราจะหาทาง
ออกจากความมืดมิดนี้เอง

Cr.http://www.aelitaxtranslate.com/2013/12/one-direction-through-dark.html

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

ประวัติ เทย์เลอร์ อลิสัน สวิฟต์

ประวัติ เทย์เลอร์ อลิสัน สวิฟต์ 
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อเต็ม                    : เทย์เลอร์ อลิสัน สวิฟต์
วันเกิด                    : 13 เดือนธันวาคม  ค.ศ. 1989
แนวเพลง                : คันทรี,ป๊อป
อาชีพ                      : นักร้อง , นักแต่งเพลง
ค่าย                        : บิ๊กแม็กชีน เรคคอร์ดส
เว็ปไซต์   : Taylorswift.com
 ในปี 2006 สวิฟต์ปล่อยอัลบั้ม Taylor Swift ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกของเธอเอง สามารถติดบิลบอร์ด 200 สูงสุดในอันดับที่ 5 อัลบั้มที่สองของสวิฟต์ Fearless ออกจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 2008 ติดชาร์ท อันดับ 1 ในบิลบอร์ด 200 ถึง 11 สัปดาห์
ชีวิตช่วงแรก
สวิฟต์ เกิดที่เมืองไวโอมิสซิง รัฐเพนซิลเวเนีย สก็อต บิดาเป็นนักลงทุนในตลาดทรัพย์ ส่วน แอนเดรีย สวิฟต์ มารดาเป็นแม่บ้าน สวิฟต์มีน้องชายหนึ่งคนชื่อ ออสติน ตอนเรียนอยู่เกรด 4 สวิฟต์ส่งกลอนความยาว 3 หน้ากระดาษชื่อ "Monster In My Closet" เข้าประกวดในการแข่งขันการแต่งกลอนระดับชาติและได้รับรางวัลชนะเลิศ สวิฟต์เริ่มเขียนเพลงครั้งแรกตอนอายุ 12 ปีเพื่อใช้ในการเข้าประกวดร้องคาราโอเกะระดับท้องถิ่นที่จัดขึ้นในงานเทศกาลต่างๆ
ชีวิตส่วนตัว
ในปี 2008 สวิฟต์ได้มีความสัมพันธ์กับ โจ โจนาส หนึ่งในนักร้องวงดนตรีโจนาสบราเทอร์ส แต่ก็ได้เลิกลากันในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน สวิฟต์ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ในรายการ "The Ellen DeGeneres Show" หนึ่งในรายการซิทคอมที่โด่งดังที่สุดในอเมริกาว่า เธอกับโจนาสเลิกกันทางโทรศัพท์ภายในเวลาเพียงแค่ 27 วินาที หลังจากนั้นเธอก็ได้แต่งเพลง "Forever & Always" ซึ่งเป็นเพลงสุดท้ายที่เธอเลือกที่จะใส่ไว้ในอัลบั้มเฟียร์เลส
ความสนใจในการแต่งเพลง
สวิฟต์หัดเล่นกีตาร์จากการสอนของช่างซ่อมคอมพิวเตอร์คนนึง หลังจากที่เล่นกีตาร์ได้คล่องแล้ว สวิฟต์ก็ได้เขียนเพลง "Lucky You" ซึ่งเป็นเพลงแรกที่เธอเคยเขียน หลังจากนั้นมาเธอก็ได้เขียนเพลงเป็นกิจกรรมยามว่างและใช้เป็นช่องทางการระบายความเหงา ความเจ็บปวดจากการที่เธอไม่ค่อยมีเพื่อนในโรงเรียนมัธยมต้น
ช่วงแรก
การร้องเพลงของสวิฟต์ได้รับอิทธิพลมาจากคุณยายของเธอ ซึ่งเป็นนักร้องโอเปรา และนักร้องคันทรีสาวลีแอน ไรมส์ เมื่ออายุ 11 ปี สวิฟต์เดินทางไปยังแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี และได้เสนอเดโมเทปต่อค่ายเพลงต่างๆโดยหวังว่าได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงสักแห่งที่นั่น แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ในปีต่อมา สวิฟต์เริ่มเขียนเพลงอีกครั้ง และเริ่มหัดเล่นกีตาร์ นอกจากนี้ เธอยังเดินทางไปแนชวิลล์อีกหลายครั้งเมื่อมองหาโอกาส จนกระทั่งครอบครัวของเธอตัดสินย้ายบ้านไปยังย่านชานเมืองแนชวิลล์ สวิฟต์ได้รับข้อเสนอจากสังกัดอาร์ซีเอเรคคอร์ดสตอนเธออายุ 15 ปี แต่เธอปฏิเสธเนื่องจากอาร์ซีเอไม่ยอมไห้เธออัดเพลงของตัวเธอเอง ต่อมา สวิฟต์ได้มีโอกาสไปเล่นที่ "The Bluebird Café" สก็อต เบอเชตตา สนใจเธอและชักชวนให้เธอเซ็นสัญญากับบิ๊กแมกชีนเรคคอร์ดส ส่วนต้นสังกัดปัจจุบันคือ Universal Music
2008–2009 : Fearless
สวิฟต์ออกอัลบั้ม EP ที่มีชื่อว่า "Beautiful Eyes" ติดชาร์ทบิลบอร์ด 200 อันดับ 9 และอัลบั้มเพลงคันทรีอันดับ 1
อัลบั้มล่าสุด Fearless เธอก็ได้ทำสถิติอีกครั้ง ตั้งแต่เริ่มวางแผงด้วยการวางแผงวันแรกก็ขายไป 217,000 แผ่น และยอดขายรวมสัปดาห์แรกน่าจะขายได้ถึง 592,304 แผ่น อัลบั้มนี้เธอลงมือแต่งเพลงเองทุกเพลง และมีส่วนร่วมในการการโปรดิวด้วย นักวิจารณ์ต่างยกย่องอัลบั้มนี้ว่า เป็นอัลบั้มเพลงป๊อบที่ดีที่สุดในปี 2008เปิดอัลบั้มล่าสุดกับเพลง Change ติดชาร์ตบิลบอร์ดคันทรี่ที่อันดับ 57 ชาร์ต และ Hot100 อันดับที่ 10 ซึ่งเพลงใช้ประกอบโอลิมปิกล่าสุดนี้ด้วย ซิงเกิ้ลแรกเปิดอัลบั้ม Love Story ก็ทำยอดดาวน์โหลดไป 4,000,000 ครั้งและติดชาร์ตบิลบอร์ดคันทรี่ที่อันดับ 1 ชาร์ต และ Hot100 อันดับที่ 4 ซิงเกิ้ลที่ 2 White Horse ทำยอดดาวน์โหลดไป 1,000,000 ครั้งติดชาร์ตบิลบอร์ดคันทรี่ที่อันดับ 2 ชาร์ต และ Hot100 อันดับที่ 13 ซิงเกิ้ลที่ 3 You Belong with Me ทำยอดดาวน์โหลดไป 2,167,000 ครั้งติดชาร์ตบิลบอร์ดคันทรี่ที่อันดับ 1 ชาร์ต และ Hot100 อันดับที่ 2 และ Hot100 Airplay ที่อันดับ 1 สวิฟต์กลายเป็นนักร้องคันทรีคนแรกที่ติดอันดับ 1 ในชาร์ท Hot100 Airplay ซิงเกิ้ลที่ 4 Fifteen ติดชาร์ตบิลบอร์ดคันทรี่ที่อันดับ 7 ชาร์ต Hot100 อันดับที่ 23 และซิงเกิ้ลนี้โรลลิ่งสโตนให้อันดับที่ 46 ซิงเกิ้ลที่ดีที่สุดในปี 2008 และปล่อยอื่นๆ ตามมาไม่ว่าจะเป็นเพลง Fearless ทำยอดดาวน์โหลดไป 500,000 ครั้งติดอันดับ Hot100 ที่อันดับ 9 ซึ่งตัดเป็นซิงเกิ้ลที่ 5, You're Not Sorry ติดอันดับ Hot100 ที่อันดับ 11 ด้วยความแรงของอัลบั้มชุดนี้เทย์เลอร์ได้ออกปกใหม่เป็นแบบแพตินั่ม ซึ่งเพิ่มเพลงใหม่อีก 6 เพลง ก็สามารถติดชาร์ตในทั้งหมด 6 เพลง ไม่ว่าเป็นเพลง Jump Then Fall ในอับดับที่ 10 และเพลงที่ถูกเอาไปใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Valentine's Day ที่เธอร่วมแสดงอีกด้วย, เพลง Untouchable ในอับดับที่ 19, เพลง The Other Side of the Door ในอับดับที่ 22, เพลง Super Star ในอับดับที่ 26, เพลง Come in with the Rain ในอับดับที่ 30 และเพลง Forever & Always (Piano Version) ในอับดับที่ 34 ล่าสุดอัลบั้มชุด Fearless ทำยอดขายในอเมริกาไป 5,366,566 แผ่น และทั่วโลก 6,626,500 แผ่น
จากการสำรวจของนีลเซ็นซาวด์สแกน สวิฟต์เป็นศิลปินที่มียอดขายมากที่สุดของปี 2008 ในอเมริกา ด้วยยอดขายรวมกัน 4 ล้านชุด อัลบั้มชุด Fearless และ ผลงานอัลบั้มในชื่อของเธอเองติดอันดับ 3 และ 6 ตามลำดับ ด้วยยอดขาย 2.1 และ 1.5 ล้าน เธอยังเป็นศิลปินคนแรกในประวัติศาสตร์จากการสำรวจของนีลเซ็นที่มีอัลบั้ม 2 อัลบั้มติดท็อป 10 ในการจัดอันดับ
2010–ปัจจุบัน: ผลงานภาพยนตร์ครั้งแรกและสตูดิโออัลบั้มที่ 3
"Today Was a Fairytale" เพลงที่สวิฟต์แต่งขึ้นเป็นออริจัลซาวน์แทรคเรื่อง "Valentine's Day" เปิดตัวติดชาร์ทบิลบอร์ดฮอต 100 ที่อันดับ 2 และชาร์ทเพลงแคนดาที่อันดับ 1 ถือว่าเป็นเพลงในเพลงแรกในแคนดาที่เปิดตัวอันดับ 1 นับตั้งแต่ "Crack a Bottle" ของ"Eminem" ในปี 2008 นอกจากนี้เพลงนี้ยังมียอดดาวน์โหลด 325,000 ครั้ง ทำลายสถิติ "วูแมนไนเซอร์" ของบริตนีย์ สเปียรส์จากยอดขายเพลงสัปดาห์โดยนักร้องหญิง
ปัจจุบันสวิฟต์กำลังทำอัลบั้มที่ 3 ของตัวเองที่มีชื่อว่า "Speak Now" โดยจะออกจำหน่ายวันที่ 25 ตุลาคมนี้ ส่วนซิงเกิลแรก "Mine" จากการที่ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะเปิดตัวเพลงนี้ในวันที่ 16 สิงหาคม กลับกลายต้องมาเลื่อนเป็นวันที่ 4 สิงหาคมแทน หลังจากเพลงนี้ได้กระจายลงสู่ทางอินเทอร์เน็ตก่อนวันออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

การปล่อยซิงเกิ้ลจาก Itunes เพื่อนับถอยหลังการวางขายของ Speak Now
เทย์เลอร์ได้มีการปล่อยซิงเกิ้ลใหม่จากอัลบั้ม Speak Now ทุกอาทิตย์ตลอดเดือนตุลาคมปี 2010 จนถึงวันที่ 25 ตุลาคมที่เป็นวันที่ Speak Now ออกวางขายเป็นวันแรก โดยจะมีการปล่อยพรีวิวเพลง 30 วินาที รวมถึงคลิปสั้นๆจากเทย์เลอร์ที่บอกที่มาของซิงเกิ้ลนั้นๆทาง 
Comcast On Demand และ XfinityTv.com หลังจากนั้นวันถัดมาจึงจะปล่อยซิงเกิ้ลขายใน Itunes โดยปล่อยทั้งพรีวิวและเพลงเต็มออกมาในเวลาเดียวกันของแต่ละวันคือ 12.01 AM หรือเที่ยงคืนหนึ่งนาทีตามเวลาของอเมริกา โดยมีการปล่อยซิงเกิ้ล 3 เพลง ดังนี้
  • 4 & 5 ตุลาคม: “Speak Now”
  • 11 & 12 ตุลาคม: “Back To December”
  • 18 & 19 ตุลาคม: “Mean”
  • 2012 : สตูดิโออัลบั้มที่ 4 RED,เพลงประกอบภาพยนตร์ The Hunger Games และ พากย์เสียงในภาพยนตร์อนิเมชั่น The Lorax,การทำลายสถิต
    • เทย์เลอร์ สวิฟต์ ได้พากย์เสียงในภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง The Lorax โดยพากย์เสียงเป็น "ออดี้" คู่กับ แซ็ค แอฟรอน
    • เทย์เลอร์ ได้ขับร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ The Hunger Games ซึ่งอยู่ในอัลบั้ม "The Hunger Games Song From Distric 12 and Beyond" เทย์เลอร์ได้ร้องเพลงในอัลบั้มนี้ 2 เพลง คือ "Safe & Sound" ซึ่งเพลงนี้ถือเป็นเพลงแนวเพลงที่เธอยังไม่เคยร้องมาก่อน และ "Eyes Open"
    • สวิฟท์กำลังทำงานอยู่ในอัลบั้มที่สี่ของเธอกับโปรดิวเซอร์นาธานแชปแมน มีกำหนดการออกในฤดูใบไม้ร่วง ปี 2012 เพลงทั้งหมด 25 เพลงได้เสร็จแล้ว แต่ เทย์เลอร์มุ่งมั่นที่จะเขียนเพลง และ อัดเสียงตลอดทั้งปี 2012
    • สวิพท์ได้ร้องเพลงร่วมกับนักร้องฮิฟฮอฟชื่อดัง "B.O.B" ในเพลง "Both of us" ซึ่งเพลงนี้อยู๋ในอัลบั้ม "Stanger Clouds"
      • ในวันที่ 13 สิงหาคม 2555 สวิพท์ได้ประกาศลงในแฟนเพจของเธอว่าเธอจะมีการแชทกับแฟนคลับของเธอโดยทุกคนสามารถถามสิ่งที่อยากรู้กับเธอได้ หลังจากการแชทเสร็จสิ้นสวิพท์ได้เซอร์ไพร์แฟนเพลงโดยการเปิดตัวเพลงที่มีชื่อว่า "We are never ever getting back together" ซึ่งเป็นเพลงโปรโมทจากอัลบั้มที่ 4 ของเธอ โดยอัลบั้มมีชื่อว่า "RED" ซึ่งจะวางแผงทั่วโลกในวันที่ 22 ตุลาคม ซึ่งหลังจากที่เพลนี้เปิดตัวไป 3 ชั่วโมง เพลงของเธอได้ทำลายสถิติซึ่งสามารถขึ้นอันดับ 1 บนชารต์ดาวน์โหลดเพลง iTune ซึ่งสถิติที่ทำไว้สูงสุดคือ Lady Gaga กับเพลง Born This Way และหลังจากนั้นได้ไม่นานเพลงของเธอเปิดตัวบนชารต์ Billborad ที่อันดับ 72 ล่าสุดทางชารต์เพลงนี้ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าซิงเกิ้ลใหม่ของสวิฟท์ได้ขึ้นอันดับ 1 ในชารต์เป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งนับเป็นเพลงแรกของเธอเลยที่สามารถขึ้นอันดับ 1 ได้ โดยอาทิตย์แรกที่เปิดตัวเพลงของเธอมียอดดาวน์โหลดสูงถึง 630,000 ยูนิต
      • ในอัลบั้ม RED สวิฟท์ได้ร่วมงานกับศิลปินและนักแต่งเพลงชื่อดังอย่าง "Ed Sheeran" ในเพลง "Luv Luv Luv"
      ผลงานเพลง
      เริ่มต้นที่ซิงเกิ้ลแรก Love Story คือเพลงแรกที่สวิฟต์ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก เพลง Love Story สามารถติดอันดับ 1 ในชาร์ทออสเตรเลีย และอันดับที่ 2 ในสหราชอาณาจักร ต่อมา ซิงเกิ้ลที่สามของสวิฟต์ You Belong with Me โดยเข้าถึงอันดับที่ 2 ของบิลบอร์ดฮอต 100อัลบั้มนี้ติดอันดับ 1 ในบิลบอร์ด 200 11 สัปดาห์และติดอันดับ 1 ในชาร์ทอัลบั้มเพลงคันทรีนานถึง 35 สัปดาห์      ในวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2009 อัลบั้มนี้ได้ถูกเปลี่ยนใหม่เป็น เฟัยร์เลสส์ แพลตินัม อิดิชั่น กับอีกหกเพลงใหม่อัลบั้มเฟียร์เลสได้รับการยกย่องว่าเป็น อัลบั้มแห่งปี และอัลบั้มคันทรียอดเยี่ยมแห่งปีในการประกาศผลรางวัล แกรมมี่อวอร์ดส ครั้งที่ 52
      ซิงเกิล

      Love Story
      วางจำหน่าย วันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2008
      "Love Story" เป็นซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม Fearless ออกจำหน่ายครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2008 และออกจำหน่ายตามประเทศทั่วโลกในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2009 "Love Story" ได้รับการตอบรับดีเยี่ยมทั้งในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา และสหราชอาณาจักร โดยติดชาร์ทบิลบอร์ด Hot 100 ที่อันดับ 4 และบิลบอร์ดคันทรีที่อันดับ 1 นอกจากนี้เพลง "Love Story" ยังถูกยกให้เป็นเพลง
      คันทรีที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดในประวัติศาสตร์และเป็นเพลงคันทรีที่ถูกออกจำหน่ายมากที่สุดด้วยการรองรับ 4x เพลตินัม จาก en:RIAA

      White Horse
      วางจำหน่าย วันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 2008
      "White Horse" ซิงเกิลที่สองจากอัลบั้ม Fearless โดยเพลงนี้เปิดตัวในบิลบอร์ด Hot 100 ที่อันดับที่ 13 ทำให้สวิฟต์กลายเป็นศิลปืนที่มีการเปิดตัวเพลงมากที่สุดอันดับ 2 ในเพลง 20 อันดับแรกของบิลบอร์ด Hot 100 เท่ากับ มารายห์ แครี และ เดอะบีตเทิลส์

      You Belong with Me
      วางจำหน่าย วันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2009
      "You Belong with Me" เป็นซิงเกิลอันดับที่สามจากอัลบั้ม '"Fearless เพลงนี้เป็นเพลงที่ได้รับความนิยมมาก สามารถขึ้นถึงอันดับ 2 ในบิลบอร์ด Hot 100 และบิลบอร์ดคันทรีที่อันดับ 1 นอกจากนี้เพลงนี้ยังติดอันดับ 1 เพลงที่มีคนขอมากที่สุดทางวิทยุ นับเป็นเพลงคันทรีเพลงแรกในประวัติศาสตร์ที่ติดอันดับ 1 บนชาร์ตนี้

Fifteen
วางจำหน่าย วันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2009
"Fifteen" ซิงเกิลที่สี่จากอัลบั้ม Fearless และเปิดตัวสูงสุดในชาร์ตบิลบอร์ด Hot 100 ที่อันดับ 23

Cr.http://www.oknation.net/blog/bombea/2013/09/07/entry-1

ประวัติจัสติน บีเบอร์


ประวัติจัสติน บีเบอร์

ชื่อเต็ม : Justin Drew Bieber
เกิด : 1 มีนาคม 2537
พี่น้อง : น้องสาวชื่อJazmine น้องชายชื่อJackson
สัตว์เลี้ยง : หมาชื่อแซม
ชื่อเล่นของจัสติน : Bieber, J-Beebs,Bieb
บ้านเกิด : Stratford,Ontario,canada.
เติบโต : Atlanta , Georgia
รถ : Range Rover (อัชเชอร์ซื้อให้เมื่ออายุครบ16ปี) และหลังจากนั้นก็ได้รถ+ซื้อรถอีกหลายๆคัน
สังกัด : Island Def Jam
ฮีโร่ : Chuck Norris
คำแสลงที่จัสตินชอบพูด : Shawty
กีฬาที่ชอบ : ice hockey,soccer,เบสบอล
สีที่ชอบ : ฟ้า,ม่วง
อาหารที่ชอบ : สปาเก็ตตี้,Tacos
ซีเรียลที่ชอบ : captain crunch
เลขที่ชอบ : 6
ไม่ช่อบ : Bling
น้ำดื่ม : น้ำวิตามิน
ภาษาต่างประเทศ : อังกฤษ,ฝรั่งเศส,สเปน(เล็กน้อย) และเยอรมัน(แค่นับ1-10)
พายที่ชอบ : พายแอปเปิ้ล
ลูกอมที่ชอบ : Sour Patch kids
สีที่ชอบใส่ : ม่วง
ทีมกีฬาที่ชอบ : Toronto Maple leafs
สัตว์ที่ชอบ : ยีราฟ
เพื่อนสนิท : ryan butler,christian beadles,chaz somer
ชื่อยูทูป : kidrauhl
โชว์ที่ชอบ : smallville
หนังที่ชอบ : Rocky
คำพูดที่ชอบพูด : single and ready to mingle
วิชาที่ชอบ : เลขและอังกฤษ
ความสามารถพิเศษ : เล่นรูบิกได้ภายใน1นาที
ยี่ห้อรองเท้าที่ชอบ : supra
หนังโรแมนติกที่ชอบ : a walk to remember
นักร้องที่ชอบ : usher ,ne-yo,chris brown,some 2pac,rascall flatts,elliott yamin,billy talent,life house,T-bone 
Star sign : pisces
ค่าตัวจัสตินที่ร้องในงารปาร์ตี้ : 2000$-8000$
จัสตินชอบโชว์ : Friends ans grew up เพราะแม่ชอบ
การเรียน : เคยได้Fครั้งนึง แต่พอไปแก้ก็ได้B
-แม่ของจัสตินอยากเป็นนักแสดงเมื่อสมัยยังวัยรุ่น
-จัสตินถนัดซ้าย
-ในเพลงNever say never จัสตินพูดคำว่าnever say never จำนวน69ครั้ง
-จัสตินเคยร้องไห้เพราะคอมเม้นในอินเตอร์เน็ตของhater
-ในเพลงu smile จัสตินพูดคำว่าu smileจำนวน36ครั้ง
-จัสตินเล่นกลอง,ทรัมเปต,กีต้าร์และเปียโนได้ 
-จัสตินเคยไปร่วมงานวันเกิดพร้อมกับkesha ที่เกิดวันที่1มีนาเหมือนกัน
-ครั้งนึงที่จัสตินขับรถแลมโบกินีP-diddy's white รอบLAเพื่อซื้อโยเกิร์ตเย็นๆกับsean kingston
-ตอนที่ถ่ายMV OLLG หมาในmvฉี่ใส่จัสติน
-จัสตินมีแฟนคลับบนแฟนเพจเฟสบุคจำนวน207,788ต่อสัปดาห์
-จัสตินไม่ชอบแมว และจัสตินเคยฝันว่าแมวกินเขา
-จัสตินแปรงฟันในอ่างอาบน้ำ
-จัสตินไม่เคยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ต้องการจะลองด้วย
-น้องสาวของจัสติน 'jazzy' มักเรียกจัสตินว่า boo booเมื่อเธอต้องการอะไรบางอย่าง
-แม้ว่าตาของจัสตินจะสีน้ำตาลอ่อนๆ แต่มันจะเปลี่ยนเป็นเขียวนิดๆเมื่อโดนแสงแดด
-เมื่อไม่นานมานี้ จัสตินมีfollowers83%ของคนทั้งหมดในtwitter
-จัสตินอยากมีลูก3คน
-ที่อยู่จัสติน : Creative Artists ,LLC (Talent Agency) 162 5th Avenue 6th Floor New york,NY 10010 USA
-จัสตินชอบchuck norrisตอนต่อยกับหมี 

เนื้อเพลง Fireproof - 1D


Fireproof - 1D


[Harry]
I think I'm gonna lose my mind Something deep inside me, I can't give up
I think I'm gonna lose my mind I'm ruling I rule till I'm out of luck

[Niall]
I'm feeling something deep inside Hotter than a dead street burning up
I got a feeling deep inside It's taking, it's taking, all I've got

[Zayn]
Cause nobody knows you baby the way I do
And nobody loves you baby the way I do

[Liam]
It's been so long Maybe you are fireproof
Cause nobody saves me baby the way you do

[Louis]
I think I'm gonna win this time riding on the wind and i won't give up
I think I'm gonna win this time i roll and i roll till i change my luck
yeah i roll and i roll till i change my luck



[Zayn]
Cause nobody knows you baby the way I do
And nobody loves you baby the way I do

[Liam]
It's been so long Maybe you are fireproof
Cause nobody saves me baby the way you do

[All]
Cause nobody knows you baby the way I do
And nobody loves you baby the way I do


[Harry]
It's been so long Maybe you are fireproof
Cause nobody saves me baby the way you do





แปลเนื้อเพลง Amnesia



"Amnesia"

I drove by all the places we used to hang out getting wasted
I thought about our last kiss, how it felt the way you tasted
And even though your friends tell me you're doing fine

 ผมขับรถไปทุกสถานที่ที่เราเคยไปเที่ยวด้วยกัน
ผมคิดถึงจูบสุดท้ายของเรา รสจูบของคุณที่ผมเคยลิ้มรส
ถึงแม้ว่าเพื่อนๆของคุณจะบอกว่าคุณสบายดีก็ตาม

Are you somewhere feeling lonely even though he's right beside you?
When he says those words that hurt you, do you read the ones I wrote you?

คุณรู้สึกเปล่าเปลี่ยวในบางที่บางไหมถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ข้างๆคุณ?
เมื่อเขาพูดคำเหล่านั้นที่ทำร้ายจิตใจคุณ คุณได้อ่านหนึ่งในคำพูดของผมที่เขียนให้คุณบ้างไหม?

Sometimes I start to wonder, was it just a lie?
If what we had was real, how could you be fine?

บางทีผมเริ่มสงสัยนะ ว่ามันเป็นแค่เรื่องโกหกหรือเปล่า?
ถ้าหากว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง คุณจะสบายดีได้ยังไง

'Cause I'm not fine at all

เพราะว่าผมไม่สบายเลยจริงๆ 

I remember the day you told me you were leaving
I remember the make-up running down your face
And the dreams you left behind you didn't need them
Like every single wish we ever made
I wish that I could wake up with amnesia
And forget about the stupid little things
Like the way it felt to fall asleep next to you
And the memories I never can escape

ผมจำวันที่คุณบอกผมว่าคุณกำลังจะจากไป
ผมจำวันที่น้ำตาของคุณไหลลงอาบแก้มได้
และความฝันทั้งหมดที่คุณทิ้งไว้ข้างหลัง คุณไม่ต้องการมัน
เหมือนกับทุกๆความปรารถนาที่เราเคยทำด้วยกัน
ผมปรารถนาว่าผมสามารถตื่นนอนพร้อมกับความจำเสื่อม
และลืมเกี่ยวกับเรื่องงี่เง่าพวกนี้ได้
เหมือนกับแบบที่รู้สึกตอนที่ผมหลับอยู่ข้างๆคุณ
และความทรงจำทั้งหลายที่ผมไม่เคยจะหลบหนีออกไปได้

'Cause I'm not fine at all

เพราะผมรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย

The pictures that you sent me they're still living in my phone
I'll admit I like to see them, I'll admit I feel alone
And all my friends keep asking why I'm not around

รูปภาพที่คุณส่งให้ผม พวกมันยังคงอยู่ในโทรศัพท์
 ผมยอมรับก็ได้ว่าผมชอบดูพวกมัน ผมจะยอมรับว่าผมรู้สึกเหงา
และเพื่อนๆทุกคนคอยถามว่าทำไมไม่เห็นผมเลย

It hurts to know you're happy, yeah, it hurts that you've moved on
It's hard to hear your name when I haven't seen you in so long

มันเจ็บที่รู้ว่าคุณกำลังมีความสุข ใช่ มันปวดร้าวที่คุณทำใจได้แล้ว
มันยากที่ได้ยินชื่อของคุณเมื่อผมไม่เห็นคุณเลยตั้งนาน 

It's like we never happened, was it just a lie?
If what we had was real, how could you be fine?

มันเหมือนกับว่าเราไม่เคยรักกัน มันเป็นแค่เรื่องโกหกใช่ไหม?
ถ้าหากว่าเราเคยรักกันจริงๆ คุณจะสบายดีได้ยังไง?

'Cause I'm not fine at all

เพราะผมไม่สบายเลยจริงๆ 

I remember the day you told me you were leaving
I remember the make-up running down your face
And the dreams you left behind you didn't need them
Like every single wish we ever made
I wish that I could wake up with amnesia
And forget about the stupid little things
Like the way it felt to fall asleep next to you
And the memories I never can escape

ผมจำวันที่คุณบอกผมว่าคุณกำลังจะจากไป
ผมจำวันที่น้ำตาของคุณไหลลงอาบแก้มได้
และความฝันที่คุณทิ้งไว้ข้างหลังทั้งหมดคุณไม่ต้องการมัน
เหมือนกับทุกๆความปรารถนาที่เราเคยทำด้วย
ผมปรารถนาว่าผมสามารถตื่นนอนพร้อมกับความจำเสื่อม
และลืมเกี่ยวกับเรื่องงี่เง่าพวกนี้ได้
เหมือนกับแบบที่รู้สึกตอนที่ผมหลับอยู่ข้างๆคุณ
และความทรงจำทั้งหลายที่ผมไม่เคยจะหลบหนีออกไปได้
If today I woke up with you right beside me
Like all of this was just some twisted dream
I'd hold you closer than I ever did before
And you'd never slip away
And you'd never hear me say

ถ้าหากว่าวันนี้ผมตื่นขึ้นพร้อมกับมีคุณอยู่ข้างๆ
เหมือนทั้งหมดนี้เป็นแค่ความฝันที่เลือนราง
ผมอยากจะกอดคุณไว้ให้แน่นๆกว่าเมื่อก่อนที่ผมเคยทำ
และคุณจะไม่มีวันหลุดออกจากอ้อมกอดของผมได้
และคุณจะไม่มีวันได้ยินผมพูด

I remember the day you told me you were leaving
I remember the make-up running down your face
And the dreams you left behind you didn't need them
Like every single wish we ever made
I wish that I could wake up with amnesia
And forget about the stupid little things
Like the way it felt to fall asleep next to you
And the memories I never can escape

ผมจำวันที่คุณบอกผมว่าคุณกำลังจะจากไป
ผมจำวันที่น้ำตาของคุณไหลลงอาบแก้มได้
และความฝันที่คุณทิ้งไว้ข้างหลังทั้งหมดคุณไม่ต้องการมัน
เหมือนกับทุกๆความปรารถนาที่เราเคยทำไว้ด้วยกัน
ผมปรารถนาว่าผมสามารถตื่นนอนพร้อมกับความจำเสื่อม
และลืมเกี่ยวกับเรื่องงี่เง่าพวกนี้ได้
เหมือนกับแบบที่รู้สึกตอนที่ผมหลับอยู่ข้างๆคุณ
และความทรงจำทั้งหลายที่ผมไม่เคยจะหลบหนีออกไปได้
'Cause I'm not fine at all
No, I'm really not fine at all
Tell me this is just a dream
'Cause I'm really not fine at all 

เพราะผมไม่สบายใจเลย
ไม่ ผมรู้สึกไม่ดีเลยจริง
บอกผมทีว่านี้คือแค่ความฝัน 
เพราะผมรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ

Cr.http://hemmo94.blogspot.com/2014/07/5-seconds-of-summer-amnesia.html



แปลเนื้อเพลงHeartbreak Girl


Heartbreak Girl

You call me up,
It's like a broken record
Saying that your heart hurts
That you'd never get over him getting over you
เธอโทรหาฉัน
มันเหมือนกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่แตกหัก
พูดว่าใจของเธอเจ็บ
นั่นเธอจะไม่มีทางกลับมาคืนดีกับเขา เขากลับมาคืนดีกับเธอ

And you end up crying
And I end up lying
Cause I'm just a sucker for anything that you do
และเธอเลิกร้องไห้
และฉะนเลิกโกหก
เพราะฉันเป็นเพียงคนที่ถูกหลอกจากการกระทำของเธอ

And when the phone call finally ends
You say thanks for being a friend,
And I'm going in circles again and again
และเมื่อโทรศัพท์โทรมาเป็นครั้งสุดท้ายจบลง
เธอขอบใจที่เรากลับมาเป็นเพื่อนกัน
และฉันกำลังตกลงไปในวังวนวนเวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

I dedicate this song to you
The one who never sees the truth
That I can take away your hurt
Heartbreak girl
Hold you tight straight through the daylight,
I'm right here when you gonna realize that I'm your cure,
Heartbreak girl,
ฉันมอบเพลงนี้ให้แก่เธอ
หนึ่งคน ที่ไม่เคยมองเห็นความจริง
ที่ฉันสามารถเอาความเจ็บปวดของเธอออกไปได้
สาวที่เจ็บปวด
จับมือเธอเดินฝ่าแสงแห่งวันใหม่
ฉันอยุ่ตรงนี้ เมื่อเวลาที่เธอคิดได้ ฉันจะเป็นคนรักษาเธอเอง
สาวที่เจ็บปวด

I bite my tongue but I wanna scream out
You could be with me now
But I end up telling you what you want to hear,
But you're not ready and its so frustrating
He treats you so bad and I'm so good to you, it's not fair
ฉันกัดลิ้นไว้แต้ฉันอยากจะกรี๊ดออกไปดังๆ
เธออยู่กับฉันได้นะตอนนี้
แต่ฉันจะเลิกพูดในสิ่งที่เธออยากฟัง
แต่เธอไม่พร้อมและที่น่าผิดหวัง
เขาทำไม่ดีกับเธอมากๆ และฉันดีกับเธอมากๆ มันไม่ยุติธรรม

And when the phone call finally ends
You say I'll call you tomorrow at 10
And I'm stuck in the friend zone again and again
และเมื่อโทรศัพท์วางสายไป
เธอบอกว่า เธอจะโทรหาฉันพรุ่งนี้ 10 โมงนะ
ฉันก็ยังเป็นเพื่อนของเธออยุ่อย่างนั้น

I dedicate this song to you
The one who never sees the truth
That I can take away your hurt
Heartbreak girl
Hold you tight straight through the daylight,
I'm right here when you gonna realize that I'm your cure
Heartbreak girl
ฉันมอบเพลงนี้ให้แก่เธอ
หนึ่งคน ที่ไม่เคยมองเห็นความจริง
ที่ฉันสามารถเอาความเจ็บปวดของเธอออกไปได้
สาวที่เจ็บปวด
จับมือเธอเดินฝ่าแสงแห่งวันใหม่
ฉันอยุ่ตรงนี้ เมื่อเวลาที่เธอคิดได้ ฉันจะเป็นคนรักษาเธอเอง
สาวที่เจ็บปวด

I know someday its gonna happen
And you'll finally forget the day you met him
Sometimes I'm so close to perfection
I gotta get it through your head that you belong with me instead,
ฉันรุ้ว่าสักวันหนึ่ง มันจะมีความสุข
และเธอก็จะลืมวันวานที่เะอพบกับเขา
บางที ฉันก็เข้าใกล้ความสำเร็จมากๆ
ฉันจะต้องได้มันมา เธอจะเป็นของฉันแทน

I dedicate this song to you
The one who never sees the truth
That I can take away your hurt
Heartbreak girl
Hold you tight straight through the daylight,
I'm right here when you gonna realize that I'm your cure
Heartbreak girl
ฉันมอบเพลงนี้ให้แก่เธอ
หนึ่งคน ที่ไม่เคยมองเห็นความจริง
ที่ฉันสามารถเอาความเจ็บปวดของเธอออกไปได้
สาวที่เจ็บปวด
จับมือเธอเดินฝ่าแสงแห่งวันใหม่
ฉันอยุ่ตรงนี้ เมื่อเวลาที่เธอคิดได้ ฉันจะเป็นคนรักษาเธอเอง
สาวที่เจ็บปวด

I dedicate this song to you
The one who never sees the truth
That I can take away your hurt
Heartbreak girl
Hold you tight straight through the daylight,
I'm right here when you gonna realize that I'm your cure
Heartbreak girl
ฉันมอบเพลงนี้ให้แก่เธอ
หนึ่งคน ที่ไม่เคยมองเห็นความจริง
ที่ฉันสามารถเอาความเจ็บปวดของเธอออกไปได้
สาวที่เจ็บปวด
จับมือเธอเดินฝ่าแสงแห่งวันใหม่
ฉันอยุ่ตรงนี้ เมื่อเวลาที่เธอคิดได้ ฉันจะเป็นคนรักษาเธอเอง
สาวที่เจ็บปวด

cr.http://lyricinthai.blogspot.com/2014/05/heartbreak-girl-5-seconds-of-summer.html